หมดยุครอคิวนาน! กับ 3 แอปฯ จองคิวร้านอาหารชื่อดัง

ทำร้านอาหารยุคนี้บอกเลยว่าแสนดีมีเทคโนโลยีหลากหลายถูกคิด
ถูกพัฒนามาเพื่ออำนวยความสะดวก เพื่อเสริมให้ธุรกิจร้านอาหารสำเร็จได้เร็วขึ้น
อยู่ที่ว่าผู้ประกอบการจะเปิดใจเรียนรู้และนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาต่อยอดให้เกิดประโยชน์
กับธุรกิจร้านอาหารของตนเองหรือไม่ อย่างเช่น 3 แอปฯ ที่นำมาแนะนำในครั้งนี้บอกเลยว่า
เป็นตัวช่วยเพิ่มลูกค้า เพิ่มยอดขายได้ง่าย ๆ ผ่านปลายนิ้ว!

QueQ แอปฯ จองคิวสำหรับคนเบื่อการรอคิว

แอปฯ ตัวแรกที่แนะนำ QueQ แอปฯ จองคิวสำหรับคนเบื่อการรอคิว แนวคิดของของผู้พัฒนาแอปฯนี้ มาจากการมองเห็นโอกาสของร้านอาหารที่สูญเสียไปจากการรอคิว
เช่น ลูกค้ามาถึงร้านเจอคิวยาวรอไม่ไหวเปลี่ยนใจไปร้านอื่น เป็นการเสียโอกาสการขายไปให้คู่แข่งอย่างน่าเสียดาย QueQ จึงถูกพัฒนาให้เป็นแอปฯ ที่ตอบสนองความต้องการ
ของทั้งฝั่งลูกค้าและร้านค้า โดยลูกค้าสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าร้านเป้าหมาย ณ เวลานั้นมีคิวกี่คิว และเลือกจองคิวร้านอาหารในรัศมี 2 กิโลเมตรในช่วงเวลาต้องการได้โดยไม่จำเป็น
ต้องมาทำการจองถึงหน้าร้าน ลูกค้าสามารถทำธุระอื่น ๆ ได้ตามสบายใจ เมื่อใกล้ถึงคิวจองทางแอปฯ จะมีระบบแจ้งเตือนมา ด้วยรูปแบบนี้ทำให้ลูกค้าไม่เกิดการเปลี่ยนใจ

ข้อดีในมุมร้านอาหารคือ สามารถกระจายช่วงพีคไทม์ของร้านออกไปได้ในแต่ละช่วงวันไม่กระจุกตัวอยู่แค่ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งจะทำให้มีโอกาสเสียลูกค้าจากคิวยาว ๆ ไปได้
เพราะเมื่อลูกค้าสามารถกำหนดคิวจองตามช่วงเวลาต้องการได้เอง ทางร้านก็สามารถบริหารโต๊ะได้

อีกหนึ่งข้อดีที่มองข้ามไม่ได้เลยคือ ระบบจองคิวของ QueQ ช่วยให้ร้านอาหารประหยัดต้นทุนพนักงานหน้าร้านสำหรับทำการจองคิวไปได้อย่างน้อย 1. คน

ร้านอาหารใดสนใจใช้บริการ QueQ ดูรายละเอียดได้ที่ >>>https://bit.ly/2luA04g

Hungry Hub All You Can Eat เปลี่ยน A La Carteให้เป็น Buffet

แอปตัวที่ 2 Hungry Hub เป็นอีกหนึ่งแอปฯ จองคิวร้านอาหารที่น่าสนใจ เนื่องจากมีความแตกต่างจากการจองคิวร้านทั่ว ๆ ไป เพราะ Hungry Hub มีจุดเด่นอยู่ที่
คอนเซ็ปต์ “All You Can Eat“ เปลี่ยนเมนูอาหาร A La Carteให้เป็น Buffet เรียกว่าเป็นเอ็กซ์คลูซีฟดีลเฉพาะลูกค้าที่จองคิวผ่าน Hungry Hub เท่านั้น โดยทางแอปฯ
มีการดิวกับทางร้านอาหารเพื่อจัดเมนูพิเศษของร้านมาทำเป็น Buffet

ประโยชน์ที่ทางร้านอาหารจะได้รับจาก Hungry Hub คือ เป็นการเพิ่มช่องทางการขายในรูปแบบ Buffetโดยสามารถใช้กลยุทธ์นี้มาเติมลูกค้าในช่วงเวลาที่ลูกค้าน้อย
ทางร้านสามารถกำหนดรอบเวลาการจองได้ สร้างโอกาสทำยอดขายในช่วงที่ไม่มีลูกค้า

ซึ่งเมื่อมีคำว่า Buffet หลายคนอาจนึกถึงราคาประหยัด แต่สำหรับ ราคา Buffet ของ Hungry Hub. นั้น เรียกว่าแต่ละที่มีราคาสูงกว่า Buffet ทั่วไป สร้างกำไรให้กับร้านอาหารได้อย่างดี
นั่นเพราะดีลที่ทำกับทางร้าน ล้วนแต่เป็นเมนูพิเศษหากสั่งในแบบ A La Carte ราคาก็จะสูงกว่า Buffet ทำให้ลูกค้าพร้อมจ่าย ร้านที่เป็น Buffet อยู่แล้ว ก็สามารถใช้แพลตฟอร์ม
Hungry Hub อัพราคา Buffetให้สูงขึ้นได้เช่นกันโดยแลกกับความพิเศษของเมนูที่ต่างจากไลน์เมนู Buffetปกติ

ร้านอาหารใดสนใจใช้บริการ Hungry Hubดูรายละเอียดได้ที่ >>>https://www.hungryhub.com/

Eatigo เปลี่ยนช่วงเวลาโต๊ะว่าง ๆ ให้สร้างกำไร

แอปฯ ตัวที่ 3 Eatigo. จุดเด่นของเป็นแอปฯ นี้ เป็นการนำหลักการบริหารรายได้แบบ Yield Management มาใช้ นั่นคือการมองเห็นว่า ร้านอาหารทุกร้านมีช่วงเวลาโต๊ะว่าง
ที่ไม่เกิดรายได้ Eatigo จึงเสนอตัวเป็นคนกลางในการดีลลูกค้าให้มาใช้บริการในช่วงเวลาที่ร้านอาหารต่าง ๆ มีโต๊ะว่าง หรือ นอกช่วงพีคไทม์นั่นเอง โดยทำโปรโมชั่น
ส่วนลดเพื่อจูงใจให้กับลูกค้า 30-50% ซึ่งดีกว่าปล่อยให้โต๊ะว่าง ๆ ไม่เกิดประโยชน์ เพราะอย่าลืมว่าร้านอาหารมีค่าใช้จ่ายเกิด 24 ชั่วโมง โดยทางร้านต้องเสียค่าคอมมิสชั่น
ต่อหัวให้กับทางแอปฯ แต่จะเสียเมื่อทางร้านมีลูกค้ามาใช้บริการเท่านั้น ทางแอปฯ จะมีหน้าที่หาลูกค้าส่งมาให้

ประโยชน์ที่ร้านอาหารจะได้รับ นอกจากเพิ่มโอกาสทำยอดขายในช่วงเวลาที่ไม่มีลูกค้า ดีกว่าปล่อยให้โต๊ะว่าง ซึ่งทางร้านสามารถบริหารส่วนลดโปรโมชั่นได้เองว่า
จะให้ส่วนลดกี่เปอร์เซ็นต์ เช่น ส่วนลด 50% ในช่วงที่มีโต๊ะว่างมากสุดของวันแล้ว ร้านอาหารยังได้ผลพลอยได้จากการทำการตลาดของทางแอปฯ
และยังได้ข้อมูลลูกค้าเพื่อไว้ใช้ประโยชน์ด้านการตลาดอีกด้วย

ร้านอาหารใดสนใจใช้บริการ Eatigoดูรายละเอียดได้ที่ >>>https://eatigo.com/th/bangkok/th

โลกยุคจากนี้เมื่อเราไม่สามารถปฏิเสธเทคโนโลยีได้ ดังนั้นการเรียนรู้และนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจเป็นเรื่องจำเป็นต้องทำ

Leave A Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *